โดยทั่วไปในตลาดฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ จะมีฟิล์มที่จำหน่ายและติดตั้งเป็นฟิล์มที่มีความหนา 0.5-2 Mill จะเน้นการป้องกันความร้อนและรังสีต่างๆที่อยู่ในแสงแดดที่ส่องผ่านมายังรถเมื่อขับขี่
แต่ฟิล์มติดรถยนต์ ของทาง “เอสโตม่า” จะเป็นฟิล์มที่มีความหนามากกว่าฟิล์มทั่วไปถึง 4 เท่า โดยจะมีความหนาอยู่ที่ 4 Mill ซึ่งความหนาระดับนี้เมื่อติดตั้งแล้วจะทำให้ฟิล์มยึดเกาะกับกระจกรถยนต์อย่างเหนียวแน่น
โดยที่ตัวเนื้อฟิล์มจริงๆไม่ได้มีดีเพียงความหนา แต่ยังคงมีคุณสมบัติอื่นๆที่ฟิล์มกรองแสงทั่วไปมี อย่างครบครัน ทั้งการกรองแสง จากชั้นเซรามิคที่มีความสามารถลดความร้อนและให้ความเป็นส่วนตัว ภายนอกมืด ภายในชัดเคลียร์ และยังมีค่าการป้องกันรังสีต่างๆสูงถึง 99%
โดยวันนี้ทาง “เอสโตม่า” จะมาพูดถึง หลักการทำงานและความนิรภัยของฟิล์ม ที่ลูกค้าหลายท่านยังมีคำถามว่า “นิรภัย”อย่างไร ปกป้องได้จริงไหม วันนี้จะมาพูดถึงการทำงานของตัวฟิล์มกัน
- หลักการทำงานและป้องกันของตัวฟิล์มนิรภัย : ตัวฟิล์มที่ติดตั้ง จะเป็นการติดตั้งเช่นเดียวกับฟิล์มกรองแสงทั่วไป ติดตั้งจากภายในห้องโดยสาร “ฟิล์มเราเน้นป้องกันผู้ขับขี่และผู้โดยสาร” ไม่ได้ป้องกันกระจกภายนอกแตก หลักการทำงานป้องกันวัตถุและเหตุร้ายต่างๆต่อตัวกระจก เนื้อฟิล์มที่ติดตั้งจะมีชั้นกาวที่มีความเหนียวพิเศษซึ่งจะยึดเกาะกับกระจกอย่างแน่นหนา และตัเนื้อฟิล์มจริงๆที่ทางแบรนด์ผลิต จะมีชั้นแผ่นฟิล์มที่ประกบกันถึง 7 ชั้น ซึ่งมากกว่าฟิล์มกรองแสงทั่วไปอย่างแน่นอน
- ซึ่งจากตรงนี้ที่กล่าวไปจะทำให้ตัวเนื้อฟิล์มที่ติดตั้งสามารถชะลอการทุบทำลายหรือซับแรงกระแทกจากวัตถุได้เป็นอย่างดี หากให้อธิบายให้เห็นภาพจะเป็นลักษณะคล้ายๆใยแมงมุมที่เป็นโครงตาข่าย เช่นเดียวกันฟิล์มจะกระจายแรงไปทั่วแผ่นกระจกที่ติดตั้งเพราะหากมีแรงมากระแทกที่กระจก ไม่ทำให้กระจกแตกในทันที หรือหากแตกจะแตกเพียงจุดเดียว กระจกไม่ร่วงหลุดมาทั้งแผ่น จนเกิดอันตรายอย่างแน่นอน
- หากรถไม่มีการติดตั้งฟิล์ม หรือติดตั้งฟิล์มที่ไม่มีการยึดเกาะกับกระจก เมื่อมีวัตถุกระทบ กระแทก จะทำให้กระจกแตกทันที หรือล่วงหล่นมาในห้องโดยสาร เสี่ยงถูกกระจกบาดได้
หากท่านใดที่มีความสนใจในตัวฟิล์มนิรภัย “Aestoma” ติดต่อสอบถามโปรโมชั่น และ การติดตั้งฟิล์มได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลย
