ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าในตลาดฟิล์มกรองแสงในประเทศไทยปัจจุบัน มีการพัฒนามาอย่างมาก จากเมื่อก่อนที่ในตลาดฟิล์มบ้านเราก็จะมีเพียงฟิล์มเข้ม ฟิล์มดำทั่วๆไป เน้นความเป็นส่วนตัวมากๆแต่ปัญหาก็คือ ทัศนวิสัยการใช้งานที่ไม่ดีพอในช่วงกลางคืน บางรุ่นมีสารปรอทผสมอยู่ทำให้สัญญานดิจิทัลต่างๆผ่านได้ยากส่งผลต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอีก
ในช่วงเวลาต่อมาก็มีการพัฒนาจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นโดยฟิล์มกรองแสงจะมี คำว่า เซรามิค เข้ามาต่อท้าย เช่น ฟิล์มกรองแสงเซรามิค ซึ่งคุณสมบัติเซรามิคก็จะช่วยให้ทัศนวิสัยชัดเคลียร์มากขึ้นกว่าเดิม ไม่มีผลกระทบต่อสัญญาณที่ใช้ภายในรถทั้ง ดิจิทัล สัญญาณอีซี่พาส และอื่นๆ
และในตลาดฟิล์มก็ยังมีอีกหลากหลายประเภทฟิล์ม ทั้งฟิล์มใสกันร้อน ที่เน้นการโชว์ภายในแต่ยังต้องการป้องกันความร้อนจากภายนอก ฟิล์มตกแต่งสีให้ความเท่ตามความต้องการของผู้ใช้งาน
และด้วยช่วงเวลา ยุคสมัย ระบบเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในตลาดฟิล์มมีการเข้ามาของคำว่า ฟิล์มนิรภัย ซึ่งก็มีหลากหลายความหมายอีกเช่นกัน ทั้งนิรภัยภายนอกที่ติดตั้งป้องกันหินดีดโดยตรง และนิรภัยภายใน แต่ที่เราจะมาพูดถึงจะเป็นฟิล์มกรองแสง เซรามิค และต่อท้ายด้วย นิรภัย ซึ่งคือฟิล์มจะติดตั้งภายในเช่นเดียวกับฟิล์มกรองแสงทั่วไปตามที่คุ้นชินกัน
แต่ทำไมต้องมีคำว่านิรภัย และเทคโนโลยีแตกต่างจากฟิล์มปกติอย่างไร จะมาอธิบายให้ทราบเป็นดังนี้
– ฟิล์มที่ในตลาดมีขายหรือที่แถมติดตั้งฟรี เมื่อออกรถใหม่ จะเป็นฟิล์มกรองแสง ธรรมดา หรือ หากอย่างดีจะเป็นฟิล์มกรองแสงเซรามิค ซึ่งถ้าหากจะให้บอกว่าสามารถใช้งานได้ดีไหมก็ขึ้นอยู่กับประเภทฟิล์มด้วย ซึ่งฟิล์มที่ติดตั้งส่วนใหญ่แทบจะ 90% ในตลาด จะเป็นฟิล์มที่มีความหนา 0.5-1.5 mil ซึ่งจะเป็นความหนาที่ช่างฟิล์มติดตั้งได้ง่าย และ ใช้การติดตั้งไม่นาน ราคาจะค่อนข้างต่ำ สามารถแถมให้กับรถที่ลูกค้าออกใหม่ได้ ซึ่งหากเป็นลูกค้าที่ไม่ซีเรียสมาก ก็จะใช้งานได้ไม่มีปัญหา
แต่แล้วฟิล์มกรองแสง เซรามิค นิรภัย ทำไมถึงต่างจากฟิล์มแถมทั่วไปละ หลักๆเลย คำว่า นิรภัย ของฟิล์มจะมีความหนาของแผ่นฟิล์มที่มากกว่าฟิล์มทั่วไป 2-4 เท่า แล้วหนาเท่าไหร่ถึงเรียก นิรภัย ฟิล์มกรองแสงปกติ หนา 0.5-1.5 mil ฟิล์มกึ่งนิรภัยจะหนา 2-3 mil และฟิล์มนิรภัยจะมีความหนา 4 mil ขึ้นไป
ซึ่งความหนาไม่ใช่เพียงแค่แผ่นฟิล์มประกบกัน แต่จะต้องมีทั้งชั้นกาว ชั้นโพลีเอสเตอร์ ชั้นเซรามิค ชั้นไลเนอร์ ชั้นกันความร้อน รังสีต่างๆ ผสมอยู่ในชั้นฟิล์ม 1 แผ่น ซึ่งตรงส่วนนี้จะทำให้เมื่อผสานกันมากทำให้ได้มาทั้งความหนาของแผ่นฟิล์มและคุณสมบัติที่ครบครัน อีกทั้งเทคโลยีขั้นตอน กระบวนการผลิตก็มีส่วนสำคัญ
ความหนา มีผลอย่างไร ความหนาในทางนิรภัย จะมีหน้าที่หลักคือ ซับแรงกระแทกของวัตถุที่มากระทบกระจก ทั้งก้อนหิน ขวด หรือแม้กระทั่งการเกิดอุบัติเหตุ แผ่นฟิล์มที่หนา ก็จะทำหน้าที่ยึดเหนี่ยวกระจกไม่ให้แตกกระจาย โดนบุคคลภายในห้องโดยสารได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม ความหนายังทำหน้าที่มากกว่านั้นคือ ในกรณีที่รถวิ่งอยู่แล้วโดนหินดีดกระจก แผ่นฟิล์มที่มีชั้นกาวที่เหนียวและหนา จะช่วยลดการวิ่งหรือรอยร้าวของกระจกไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น (***ฟิล์มไม่ได้ป้องกันกระจกแตกจากภายนอก)
ช่วยป้องกันการโจรกรรม ได้จริงไหม !! สามารถช่วยชะลอระยะเวลาการทุบทำลายกระจกได้ ซึ่งโดยปกติหากเป็นโจร หรือ ผู้ไม่ประสงค์ดี จะใช้การทุบทำลายเพียง 1-3 ครั้งในการทุบหากเกินหว่านี้จะทำให้เป็นที่สังเกตุ โจร อาจจะต้องรีบหนีไปก่อน ฉะนั้นการติดตั้งฟิล์มนิรภัย ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ในการลดโอกาสการเกิดการโจรกรรม หรือ ทุบทำลายกระจกได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหากใครชอบนำทรัพย์สินไว้ในรถจำนวนๆมาก หรือ ต้องจอดรถในที่เปลี่ยว ก็ช่วยได้ในระดับนึง
คุณสมบัติอื่นๆยังมีครบครันไหม ต้องบอกเลยว่าตัวฟิล์มมีพื้นฐานและคุณสมบัติเดียวกับฟิล์มกรองแสง ระดับที่ดีที่สุด ทั้งด้านความชัดเคลียร์ของทัศนวิสัย สัญญาณต่างๆ และการป้องกันความร้อน ตัวฟิล์มให้คุณสมยัติมาครบครัน
อายุการใช้งานของฟิล์มกรองแสง เซรามิค นิรภัย ใช้งานได้อย่างยาวนาน รับประกันคุณภาพให้ถึง 7 ปี มีบริการดูแลหลังการขายและเคลมหากเกิดปัญหาจากคุณภาพฟิล์ม
แล้วใครบ้างที่ควรจะต้องเลือกติดตั้งฟิล์มกรองแสง เซรามิค นิรภัย ประเภทนี้
- 1.เป็นคนที่ห่วงใยคนที่คุณรัก เพราะการติดตั้งฟิล์มนิรภัย หมายถึงความปลอดภัยของทุกคนที่โดยสารไปกับรถ หากเลือกติดตั้งไว้เท่ากับมีเกราะป้องกันเพิ่มอีก 1 ชั้น ลดความสูญเสียจากสิ่งที่คาดไม่ถึงได้
- 2.เป็นรถที่ใช้กับครอบครัว ประเภท SUV PPV รถตู้ รถประเภทนี้เหมาะสมกับการติดตั้งฟิล์มกรองแสง เซรามิค นิรภัย อย่างมาก
- 3.เป็นรถสายซิ่ง รถสปอร์ต ซูเปอร์คาร์ ที่ใช้ความเร็วสูง ควรเลือกติดตั้งป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้นได้ เพราะรถที่ใช้ความเร็สสูงหากโดยวัตถุกระเด็นมาโดนกระจก จะทำให้เกิดแรงกระแทกอย่างรุนแรง อาจทำให้กระจกแตกกระจายได้ ที่สำคัญหากแตกกระจายเข้าห้องโดยสารเสี่ยงต่อการสูญเสียอย่างมาก
- 4.ชอบเก็บทรัพย์สินมีค่าไว้ในรถ เพราะหากติดฟิล์มที่มีความเข้มไม่มาก ก็อาจจะเป็นที่ล่อใจให้โจรหรือผู้ไม่ประสงค์ดีเห็น จนเกิดความอยากได้และทุบกระจกขโมยทรัพย์สิน
เพราะฉะนั้น เมื่อปัจจุบันฟิล์มกรองแสง ติดรถยนต์ ในท้องตลาดไม่ได้มีเพียง 1 หรือ 2 ตัวเลือกแล้ว ลูกค้าหรือใครที่กำลังมองหาฟิล์มที่จะติดตั้งให้กับรถที่ใช้งานหรือกำลังจะออกรถใหม่ ก็ฝากอีกหนึ่งตัวเลือกในการตัดสินใจ เพราะฟิล์มติดรถยนต์ ไม่ได้ติดแล้วควรเปลี่ยนบ่อยๆ ติดตั้งที อยู่ได้ยาวๆ 5-10 ปี ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีและคุ้มค่าคุ้มราคาไปเลย
ท่านใดสนใจติดตั้ง หรือ ต้องการสอบถามโปรโมชั่นเพิ่มเติม เกี่ยวกับฟิล์มกรองแสง เซรามิค นิรภัย เอสโตม่า สอบถามได้ที่ Line @aestoma โทร.02-032-8461 ได้เลย
